สวัสดีค่ะ วันนี้มารีวิวเครื่องชั่งน้ำหนัก เหมาะสำหรับทุกคนทั่วไปและมีฟังค์ชั่นพิเศษเหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก รู้ดัชนีมวลกายและสามารถชั่งวัดไขมันในร่างกายและวิเคราะห์สุขภาพตัวเองได้ เป็นเครื่องชั่งอัจฉริยะที่ใช้งานและแสดงผลผ่านมือถือ เพียงแค่ดาวน์โหลดแอพและต่อเข้ากับBluetooth ใช้งานง่าย ดีไซน์สวยและสะดวกมากๆ
เปิดกล่องมามีพลาสติกใสพร้อมข้อความว่า Hello
กล่องเป็นสีน้ำตาล เปิดมามีคู่มือและใบเสร็จรับเงินพร้อมข้อมูลบอกวิธีติดตั้ง และการรับประกันเครื่อง
มีถ่านแบตเตอรี่และFootpadพร้อมให้ในกล่องเลย
รายการสินค้าในกล่องทั้งหมด
- ตราชั่ง x 1, แบตเตอรี่ AAA x 4, Footpad, เอกสารคู่มือ และ เอกสารรับประกัน
Yunmai Color สีขาว น่ารักมากๆ ดีไซน์สวย
ด้านหลังเครื่อง
มาใส่ถ่านกัน ชอบใช้ถ่านAAAแบบนี้มาก หาซื้อง่ายกว่าแบตรุ่นกลมๆ
ลองใส่ Footpad ดู
ใส่ Footpadแล้วดูสวยกว่านะ
คู่มือวิธีการติดตั้งและการใช้ step by step
ขั้นตอนการใช้งานคร่าวๆ
1. Download Application Yunmai ใช้ได้ทั้งระบบ iOS & Android
2. เปิด Bluetooth โทรศัพท์มือถือเพื่อเชื่อมต่อกับเครื่องชั่งน้ำหนัก
พร้อมบอกวิธีดาวน์โหลดแอพด้วย
ขั้นตอนการลงทะเบียนการรับประกันเครื่อง E – Warranty
เข้าโปรแกรมไลน์ แล้วสแกนบาร์โค้ดด้านหลังเครื่องชั่ง ตรงที่เขียนว่า E-Warranty
Scan Barcodeเสร็จจะมีลิงค์ขึ้นมา ให้กด openเปิด
กรอกหมายเลขข้างล่างบาร์โค้ด ถ้าไม่มีเฟซบุคก็กดตรงลิงค์ข้างล่างปุ่มล็อกอิน
ถ้ามีเฟสบุคก็กด Login with Facebook ได้เลย
เราลงทะเบียนแบบไม่มีเฟซบุคดู
กรอกข้อมูลและถ่ายรูปใบเสร็จรับเงินสินค้า และอัพโหลดรูป เท่านี้ก็เสร็จแล้ว
*รับประกันสินค้า 1 ปี
ขั้นตอนการ Download Application
ใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่น YUNMAI
ดาวน์โหลดแอพ Yunmai (iOS หรือ Android) กด Register ลงทะเบียน
กดเลือกเพศ กรอกข้อมูลส่วนตัว ชื่อ อายุ ส่วนสูง
ใส่อีเมลลงทะเบียน และเลือกรุ่นที่ใช้ (Yunmai Color)
มีแจ้งเตือนขึ้นมาให้เปิดบลูทูธ ก็เปิดBluetoothและกด Connect
เชื่อมต่อเครื่องเข้ามือถือเสร็จ ให้ขึ้นชั่งน้ำหนัก ก็ติดตั้งสำเร็จ
แสดงค่าต่างๆ ทั้งหมด 10 ค่า วัดค่าโดยใช้เทคโนโลยี BIA (Bioelectric Impedance Analysis) ที่ให้ความแม่นยำสูงสม่ำเสมอ
–BMI ดัชนีมวลกาย เกณฑ์การวัดว่าระดับน้ำหนักเรามาตรฐาน อ้วน หรือ ผอมเกินไป มาจากสูตร Weight (KG) / Height (m)2 ของเราได้22.3 เกณฑ์ปกติ เส้นจะอยู่บริเวณสีเขียว ถ้าระดับคนอ้วนจะเป็นสีส้ม ถ้ามากกว่า30จะอยู่ที่สีแดง คือคนอ้วนระดับ2 ซึ่งระดับนี้ทำให้มีปัญหาสุขภาพตามมาได้
ดัชนีมวลกายน้อยกว่า 18.5 คุณมีน้ำหนักน้อยเกินไป ซึ่งอาจจะเกิดจากนักกีฬาที่ออกกำลังกายมาก และได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ วิธีแก้ไขต้องรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ และมีปริมาณพลังงานเพียงพอ และออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
ดัชนีมวลกายระหว่าง 18.5-22.9 คุณมีน้ำหนักปกติและมีปริมาณไขมันอยู่ในเกณฑ์ปกติ มักจะไม่ค่อยมีโรคร้าย อุบัติการณ์ของโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงต่ำกว่าผู้ที่อ้วนกว่านี้
ดัชนีมวลกายอยู่ระหว่าง 23-24.9 คุณเริ่มจะมีน้ำหนักเกิน หากคุณมีกรรมพันธ์เป็นโรคเบาหวานหรือไขมันในเลือดสูงต้องพยายามลดน้ำหนักให้ดัชนีมวลกายต่ำกว่า 23
ดัชนีมวลกายอยู่ระหว่าง 25-29.9 คุณจัดว่าเป็นคนอ้วนระดับ1 และหากคุณมีเส้นรอบเอวมากกว่า 90 ซม.(ชาย) 80 ซม.(หญิง) คุณจะมีโอกาศเกิดโรคความดัน เบาหวานสูง จำเป็นต้องควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย
ดัชนีมวลกายมากกว่า 30 คุณจัดว่าอ้วนระดับ2 คุณเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่มากับความอ้วน หากคุณมีเส้นรอบเอวมากกว่าเกณฑ์ปกติคุณจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคสูง คุณต้องควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างจริงจัง
–Body fat ไขมันในร่างกาย มวลไขมันคิดเป็นกิโลกรัมจากน้ำหนักตัวทั้งหมด
–Muscle Mass ปริมาณมวลกล้ามเนื้อ รวมน้ำในกล้ามเนื้อเทียบกับน้ำหนัก มวลกล้ามเนื้อคิดเป็นหน่วยกิโลกรัมจากน้ำหนักตัวทั้งหมด
–Water น้ำทั้งหมดในร่างกาย Body Water ปริมาณของเหลวในร่างกายคิดเป็นเปอเซนต์ตามน้ำหนัก
–Protein โปรตีนในร่างกาย ส่วนสำคัญที่ร่างกายต้องการเพื่อการเติบโตหรือซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
–Visceral Fat Rating ค่าไขมันในช่วงช่องท้อง (Abdominal Cavity) ไขมันที่เกาะอยู่ตามอวัยวะภายในบริเวณช่องท้อง ตับ ตับอ่อน ลำไส้ ซึ่งถ้าเรามีไขมันตรงนี้เยอะ จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือเบาหวาน ค่าไขมันตรงนี้ยิ่งมีอายุมากก็จะยิ่งสูงขึ้น เหมือนอย่างเช่นเมื่อเรายิ่งแก่ พุงเราก็ยิ่งพลุ้ยขึ้น ซึ่งลดยากมาก เราควรรักษาให้อยู่ในเรทปกติ ระหว่าง 1 – 12 เท่านั้น
–Bone mass มวลกระดูก หรือ ความหนาแน่นกระดูก (Bone density หรือ Bone mineral density ย่อว่า BMD)ตัวบอกถึงความแข็งแรงของกระดูก ปริมาณแร่ธาตุที่เสริมสร้างความแข็งแรงในกระดูก (เช่น แคลเซียม) ต่อเนื้อที่กระดูก 1 ตารางเซนติเมตร
–BMR (Basal Metabolic Rate) : ปริมาณพลังงานที่ร่างกายเผาผลาญระหว่างพัก เช่น นั่งเฉย ๆ หรือนอนหลับ หรืออัตราการเผาผลาญพลังงานพื้นฐานที่ร่างกายต้องใช้เพื่อให้ระบบต่างๆทำงาน ไม่รวมการออกแรง ตัวเลขนี้จะใช้บ่งบอกว่าเราควรกินอาหารที่ปริมาณแคลอรี่เท่าไหร่ต่อวันถึงจะเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย โดยปกติแล้วกิจกรรมในแต่ละวันจะใช้พลังงานประมาณ 15% ของ BMR
คือพลังงานที่เราควรกินเข้าไปเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
ถ้าเรากินพอดีโดยไม่ออกกำลังกายเพิ่ม เราก็จะรักษาน้ำหนักตัวแบบนี้ไปเรื่อย ๆแต่ถ้าเราออกกำลังกายเพิ่ม
เราก็ควรกินเพิ่มประมาณ 500 kcal ต่อวัน ซึ่งจะส่งผลให้เราลดน้ำหนักประมาณ 0.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ แต่เราก็ไม่ควรกินน้อยเกิน เพราะร่างกายจะไปดึงเอามวลกล้ามเนื้อและน้ำมาใช้แทน
–Fitness Age หรือ Body Age การคำนวณอายุร่างกายตามสุขภาพที่วัดได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้
Fuction ต่างๆที่มีให้เยอะเลยแต่ใช้งานง่ายนะ
ตั้งเวลาแจ้งเตือนให้ชั่งน้ำหนัก เพราะน้ำหนักจะเปลี่ยนไปในแต่ละวัน เช่น ช่วงเวลาหลังมื้ออาหาร
แถมเรายังสามารถเปิดโหมดนักกีฬาได้ด้วย
ให้ลูกชั่งน้ำหนัก ได้17กิโล แต่เผลอกดชื่อผิด ไปกดชื่อตัวเอง แอพเลยจำว่าเป็นน้ำหนักเราในประวัติ กราฟเลยพุ่งดิ่งลงมา เราก็สามารถแก้ไขได้ โดยไปที่ Historic Data กดค้างตรงข้อมูลที่จะลบ แล้วกด Confirm
กราฟสุดท้ายจะเห็นว่าน้ำหนักเราค่อยๆลงนะ 55 -> 54 -> 53
ตั้งเป้าหมาย ให้ค่อยๆลดน้ำหนักไปเรื่อยๆ รู้สึกว่ามีเครื่องชั่งนี้ก็ดี ช่วยกระตุ้นให้ตัวเองอยากลดหุ่น
ค่อยๆลด จากน้ำหนัก55 ก็ตั้งลดเป็น54 พอได้54 ก็ตั้งเป็นสัก53 อย่างงี้ไปเรื่อยๆ แต่ไม่ควรลดแบบหักโหม งดข้าวไรงี้นะ
เราควรลดอย่างมีประสิทธิภาพ ช้าๆได้พร้าเล่มงาม ค่อยๆลงไปทีละนิด ควรกินอาหารให้หลากหลายครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม กินเท่าที่ร่างกายต้องการ วันไหนกินมากเกินไป วันต่อมาก็กินลดลง
ข้าวจากที่กินจนอิ่มเกินก็ค่อยๆแบ่งกิน เราเอามื้อเช้าแบ่งกินครึ่งนึง กินเป็นมื้อเช้ากับมื้อสาย มื้อต่อไปก็แบ่งเหมือนกัน กินได้5มื้อ ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานดีขึ้นด้วย ข้าวเย็นกินให้น้อยที่สุด ดึกๆหิวก็กินผลไม้ นมอุ่นๆหรือโยเกิร์ตไขมันต่ำ งดกินของจุบจิบ ไม่ซื้อของกินตุนเยอะ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวัน หรือเกือบทุกวัน อย่างน้อยให้เหนื่อยพอควรจนรู้สึกหายใจเร็วขึ้น สะสมให้ได้อย่างน้อยวันละ 30 นาที โดยอาจจะแบ่งเป็น 2 – 3 ครั้งก็ได้ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน
ให้ลูกชายมาชั่งบ้าง พุงยื่นมากๆ แต่ถอดเสื้อผ้าแล้วน้ำหนักลงแฮะ 55 จาก 17.8 เป็น 17กก.
ผลวิเคราะห์ไม่สามารถใช้กับคนที่อายุต่ำกว่า 17 คาดว่าเพราะร่างกายยังเปลี่ยนแปลงได้อีกตามวัย
แอดสมาชิกเพิ่ม แค่กดตรงมุมซ้ายตรงเครื่องหมายบวก
และสามารถแก้ไขข้อมูล Family member ของลูก แก้ไขส่วนสูง อายุ ระบุสถานะภาพความสัมพันธ์ว่าเป็นลูกชาย
เครื่องนี้สามารถจดจำผู้ใช้งาน และญาติ ได้รวมถึง 16 คนเลย และยังมีฟังก์ชั่น Guest เพื่อเชิญให้ผู้อื่นทดลองใช้ตาชั่งได้
เปรียบเทียบข้อมูลวิเคราะห์ของสามี ถ้าน้ำหนักเยอะเกินอายุตามฟิตเนสจะเกินกว่าอายุจริงนะ เกินมา3ปี
เทียบข้อมูลวิเคราะห์ของตัวเอง น้ำหนักเราปกติ อายุตามฟิตเนสจะน้อยกว่าอายุจริงนิดนึง ลดไปปีเดียว
แอพพลิเคชั่น YUNMAI สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Health, Fitbit, และ Google Fit ได้
ชั่งทุกวัน ดูการแจ้งเตือนและผลวิเคราะห์สุขภาพผ่านมือถือ
ขนาดกำลังเหมาะ ไม่หนักด้วย
ความรู้สึกหลังใช้
ข้อดีของเครื่องชั่งน้ำหนักนี้คือทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้น สามารถดูผลวิเคราะห์สุขภาพ
มีแจ้งเตือนในมือถือ มีให้ใส่น้ำหนักเป้าหมายที่ต้องการ ไม่ว่าอยากจะลดหรืออยากคุมน้ำหนัก สามารถติดตามกราฟน้ำหนักทั้งของตัวเองและลูก ทำให้ใส่ใจสุขภาพทั้งตัวเองและคนในครอบครัวมากยิ่งขึ้น ชอบที่เครื่องมีรูปทรงสวยงาม ใช้งานง่าย มีเวลาแจ้งเตือนให้ชั่งน้ำหนักทางแอพ ดีไซน์สวย น้ำหนักเบา สามารถย้ายไปไหนได้ง่าย ดูทนทานดี
ราคา Yunmai Color = 2,590
#เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล
#เครื่องชั่งน้ำหนัก
#เครื่องชั่งอัจฉริยะ
#ดัชนีมวลกาย
#ลดน้ำหนัก
#เครื่องชั่งวัดไขมัน
#YUNMAI
++++++++++++++++++++++++++++++++
วันนี้ขอจบแต่เพียงเท่านี้ คราวหน้าจะเป็นอะไรโปรดติดตามค่า
Facebook: http://www.facebook.com/adiamakeup
Youtube: http://www.youtube.com/user/adiar
Instagram: http://www.instagram.com/adiabraun/
Twitter: http://twitter.com/adia
Facebook photo portfolio: http://facebook.com/glossyart
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡