รีวิว AERA Anti-Pollution ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและฮาวทูแต่งหน้าโทนสีแดง

สวัสดีค่า วันนี้เรามีผลิตภัณฑ์ตัวนึงที่อยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆดูกันนะคะ นั้นก็คือ AERA Anti-Pollution(แอร่า แอนไทโพลูชั่น) เราทราบมาว่าเค้าเป็นผลิตภัณฑ์ของคนไทยที่การันตี ผลลัพธ์ด้วยรางวัลด้านนวัตกรรมของสารสกัดจากสถาบันชั้นนำเลยน๊าาาา ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ เหมาะมากๆสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย ทำให้ผิวแข็งแรง ดูกระจ่างใส มีออร่า คุณภาพสมราคาจริงๆ

เนื่องจากเราเป็นคนที่แต่งหน้าบ่อย ผิวมัน มีสิวขึ้นง่าย เลยต้องหาครีมที่ช่วยทำให้แต่งหน้าได้ติดทน ไม่ทำให้หน้ามันและไม่ทำให้เกิดสิว อ่อนโยนต่อผิวบอบบาง และวันนี้เราจะพามาทดลองแต่งหน้าให้ดูกันนะคะว่าเมคอัพติดทนดีจริงไหม เป็นการสอนแต่งหน้าไปในตัวเลยดีไม๊ อิอิ

จริงๆในทุกวัน เราหลีกเลียงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆ เช่น ฝุ่น ควัน ฝน แสงแดด อันเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผิวหน้า ยิ่งตอนนี้กรุงเทพต้องเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศ เราก็ต้องหาทางป้องกันหาตัวช่วยทำให้ผิวเราให้แข็งแรง ลดการเกิดปัญหาสิวหรือสิวผดกันด้วยนะคะ

ครีม Invisible Shield Cream จากแบรนด์ AERA Anti-Pollution (แอร่า แอนไทโพลูชั่น)

สารสกัดจากธรมชาติที่สามารถบำรุงผิว และปกป้องผิวจากมลภาวะได้ในเวลาเดียวกัน เราว่าน่าจะเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ของหลายๆคน โดยเฉพาะคนที่เป็นสิวผด และ ผิวแพ้ง่ายค่ะ ทำไมหน่ะหรอ?

ตามนี้เลยจ้าาาาาา มาๆๆๆๆๆๆ มาดูเร๊ว

คุณสมบัติ

ครีมตัวนี้จะสร้างชั้นฟิล์มเคลือบป้องกันผิวจาก ฝุ่น ควัน ช่วยเสริมสร้างผิวให้แข็งแรง เหมาะสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย ผิวที่มีสิว ผด ผื่น ใครที่เป็นสิวก็จะช่วยลดการอักเสบของผิว ป้องกันการเกิดสิว

ใช้ไปประมาณ 1อาทิตย์รู้สึกแล้วว่าผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยตื้นขึ้น หน้าตึงกระชับ หน้ามันน้อยลง

ตัวนี้ยังช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVB จุดหมองคล้ำ รอยฝ้า กระ จางลงด้วย

ผิวดูชุ่มชื้น ทำให้เมคอัพติดทนดี สามารถเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างได้ชัดภายใน 14 วัน

ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ ไม่มีแอลกอฮอล์ (Alcohol free), พาราเบน (Paraben free), สี (Colorant Free), สารปรอท, สเตียรอย, กรดวิตามิน A และไฮโดรควินิน ทั้งยังได้ทดสอบกับผิวคนไทยที่แพ้ง่าย พบว่า 99% ไม่แพ้เลย

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์

– การนำสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ได้รับรางวัลด้านนวัตกรรมมากถึง 4 รางวัลมาใช้ ซึ่งเรียกได้ว่าหาได้ยากมากสำหรับแบรนด์ไทยในปัจจุบัน

– เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในไทยแต่ใส่ใจเรื่องคุณภาพมากๆ ทั้งเรื่องสารสกัด การทดสอบสารเคมี และทดสอบการแพ้

– เจ้าแรกที่นำสารสกัดธรรมชาติจากเทือกเขาแอนดีส ประเทศเปรู มาใช้ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด โดยเฉพาะการนำสารสกัดธรรมชาติ “ควินัว” ที่ปกติเรานิยมนำมารับประทาน มาประยุกต์ใช้กับ skincare โดยมีคุณสมบัติเด่นคือ

การสร้างชั้นฟิล์มบางๆ เคลือบบนผิวหน้า ป้องกันไม่ให้ฝุ่น ควัน แทรกซึมเข้าผิวหน้าชั้นใน ลดการเกิดปัญหาสิว

สารสกัด

1.ควินัว จากเทือกเขาแอนดีส ประเทศเปรู

เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการสร้างฟอร์มเสมือนเกราะที่มองไม่เห็น ปกป้องผิวหน้าจากสิ่งสกปรกจากมลภาวะ ช่วยรักษาความชุ่มชื้น หยุดยั้งการระเหยของน้ำจากชั้นผิวอันเป็นบ่อเกิดของรอยเหี่ยวย่น ปรับผิวให้ดูฟื้นฟู ยกกระชับ

2.พริกไทยสีชมพู จากเทือกเขาแอนดีส ประเทศเปรู

“สร้าง Skin barrier ให้แข็งแรงขึ้น ส่งผลให้สารมลภาวะซึมเข้าสู่ผิวได้น้อยลง ความมันผิวลดลง 81% และรูขุมขนเล็กลง

40.3% ใน 7วัน”

ได้รับรางวัล: สถาบัน in-cosmetics Asia รางวัล Silver award for best active ingredients 2015 Innovation Zone

3.โสมเปรู จากเทือกเขาแอนดีส ประเทศเปรู

สารสกัดออร์แกนิคจากธรรมชาติ 100% มีความสามารถในการเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจน ปกป้องผิวจากรังสี UV และต่อต้านริ้วรอย

แพลงก์ตอน GP4G จากฝรั่งเศส

ส่งผลในการเพิ่มพลังงานในการสร้างเซลล์ใหม่และซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลายจากสาเหตุภายใน ด้วยอายุที่มากขึ้นหรือปัจจัยภายนอกคือมลภาวะ แสงแดด นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVB

ได้รับรางวัล: Oscar 2000 โดยนิตยสาร Cosmetique

EPS White นวัตกรรมจากการทดลองจากแล็บชั้นนำในฝรั่งเศส

รองรับด้วยผลวิจัยกับผิวคนไทยพบว่า EPS white 96% ของผู้ใช้ ผิวกระจ่างใสขึ้น และป้องกันการอักเสบจากผิวที่โดนมลภาวะทำร้ายซึ่งเป็นสาเหตุของสิว ผด ผื่น และ 94% ของผู้ใช้ยืนยันว่ารอยดำที่หายยากเช่น ฝ้า กระ รอยแผลเป็น จางลง และป้องกันการอักเสบของผิวหน้าจากมลภาวะได้ถึง 45%

ได้รับรางวัล: สถาบัน BSB รางวัล Prize Innovation Award 2016

เมื่อไปหาข้อมูลมา ค้นพบว่าเขาได้รับรางวัลมามากมาย

ได้รางวัล Silver Award in Innovation Zone จากสถาบัน In-cosmetic

รางวัล Best Ingredient Award 2015 สถาบัน In-cosmetic Asia

รางวัล Gold Award in Innovation Zone Best Ingredient Award 2015
ทำให้มั่นใจได้ว่าครีมน่าเชื่อถือและมีคุณภาพแน่นอน

เราจะมาลองทาที่ผิวให้ดูกันนะคะ

เนื้อครีมเป็นแบบกึ่งเจล มีสีขาวขุ่น เรียกว่าเนื้อเบสครีม เลซิเจล เป็นเนื้อเบสที่ดีที่สุด การันตีด้วยรางวัลด้านนวัตกรรม ถึง 2 รางวัล ช่วยให้เนื้อสัมผัสลื่น เกลี่ยแล้วซึมสู่ผิวได้ดี สบายผิว สดชื่นตลอดวัน ไม่ทิ้งคราบใดๆ เพิ่มพลังการออกฤทธิ์ของสารสกัดในครีมให้เห็นผลเร็วขึ้น

เนื้อเจลมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เกลี่ยง่าย จับที่หน้าจะมีความหนึบนิดๆ แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ควรแตะทีละนิดและทาบางๆ ทาเสร็จแล้วทากันแดดแต่งหน้าต่อได้เลย

วิธีใช้ ทาบำรุงผิวเช้า-ก่อนนอน หลังอาบน้ำจากที่ผิวแห้งๆ จะเห็นได้ชัดว่าผิวมีความชุ่มชื่นขึ้นมาก

ก่อนและหลังใช้

ความรู้สึกหลังใช้ หลังจากใช้มาเป็นเวลาประมาน 3 สัปดาห์ ทั้งเช้า และ ก่อนนอน สังเกตเห็นได้ว่า สิว ผด ผื่น รอยแดงหายไป ผิวแข็งแรงขึ้น หน้านุ่มขึ้นอย่างชัดเจน พวกรอยสิว ดำแดง จางลง หน้าก็ดูใสขึ้นเรียบเนียนขึ้นด้วย ถือว่าตัวนี้ตอบโจทย์เรามากเหมือนกันเพราะว่าก่อนหน้านี้เราเดินทางเยอะ พาลูกไปเที่ยว เจอมลภาวะเยอะ และเป็นคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย หน้ามัน แต่งหน้าบ่อย พอมาเจอตัวนี้ก็ถูกใจมากๆเลยทั้งในความใส่ใจการเลือกส่วนประกอบที่น่าเชื่อถือมากๆ และผลลัพธ์ที่เห็นผลแตกต่างทำให้เรารู้สึกได้ว่าผิวเราเปลี่ยนไป แข็งแรงขึ้นจริง ชอบที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้เป็นสิว ให้ความชุ่มชื้น สามารถลดริ้วรอยได้ด้วย

วันนี้แถมฮาวทูแต่งหน้าโทนสีแดง-ทองที่แต่งแบบง่ายๆมาฝากกันด้วย
เราจะมาลองดูกันว่าครีมตัวนี้ช่วยทำให้เมคอัพติดทนนานจริงไหม

แตะครีมAera เป็นจุดๆที่หน้าผาก แก้ม จมูก คาง บางๆ แล้วเกลี่ยครีมให้ซึมสู่ผิว

หลังทาครีมเสร็จก็ทารองพื้นกันแดด ทาแป้ง และมาเริ่มแต่งตากัน

ทาอายแชโดว์สีทอง และคัดเบ้าด้วยอายแชโดว์สีแดงเปลือกมังคุด

ไฮไลท์สีทองชิมเมอร์ที่ตาล่างและใต้คิ้ว เบลนด์ให้ไม่มีขอบ กรีดอายไลเนอร์ให้หางคมนิดๆและทาอินเนอร์สีดำด้านในขอบตา

ใช้อายแชโดว์สีแดงวาดเหนืออายไลเนอร์ ติดขนตาขนมิ๊งฟูๆและปัดแก้มสีที่ชอบให้ฟุ้งๆไปถึงขมับเลย

ก็จะได้ลุคดูเปรี้ยวๆแบบนี้

ก่อนและหลังแต่งหน้า แตกต่างสุดๆเลย

เมื่อแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว รู้สึกว่าหลังจากทาครีมแล้วทำให้แต่งหน้าได้ง่ายขึ้น ผิวมีความชุ่มชื้น ทาแป้งแล้วหน้าไม่ลอกไม่เป็นขุย เมคอัพติดทนดีใช้ได้เลย ใครที่มีปัญหาแต่งหน้าแล้วไม่ติดทน ควรหาเลือกซื้อครีมที่เนื้อบางเบาแต่ให้ความชุ่มชื้นต่อผิว เพราะถ้าใช้ครีมแล้วหน้าเหนียว หน้ามัน จะทำให้เมคอัพหลุดลอกง่ายนะ
ใครที่สนใจครีมตัวนี้ก็ลองเข้าไปดูได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลย

ราคา 1,190 บาท / 30กรัม